วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

ออกรายการสถานีสีเขียว เป็นรายการเกี่ยวพลังงานทางเลือก

วันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2553

งานสิ่งประดิษฐ์พลังงานหมุนเวียนของบริษัทบางจากปิโตเลี่ยม



บางจากฯ - สพฐ. เฟ้นหาเยาวชนอัจฉริยะพัฒนาพลังงานสะอาดเพื่ออนาคต
20/08/53
บางจากฯ ร่วมกับ สพฐ. จัดประกวดสุดยอดเยาวชนพลังงานทดแทน ปี 4 ในหัวข้อ “Thailand Go Green” ชิงทุนการศึกษากว่า 2 ล้านบาท พร้อมดูงานต่างประเทศ โดยเฟ้นหาเยาวชนอัจฉริยะด้านนวัตกรรมพลังงานสะอาดในอนาคตเพื่อทดแทนเชื้อเพลิงจากปิโตรเลียม เชิญชวนทีมอาจารย์ - นักเรียนระดับมัธยมศึกษาทั่วประเทศเข้าสมัครแข่งขัน

ดร.อนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัท บางจากฯ และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กระทรวงศึกษาธิการ จัดการประกวดสุดยอดเยาวชนพลังงานทดแทน ในหัวข้อ “Thailand Go Green” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยเชิญชวนครูและนักเรียนระดับมัธยมศึกษาทั่วประเทศ ร่วมคิดโครงงานพัฒนานวัตกรรมพลังงานสะอาด อาทิ พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานคลื่น น้ำมันไบโอดีเซลจากสาหร่าย พลังงานจากก๊าซชีวภาพ ชีวมวล ฯลฯ ซึ่งพลังงานดังกล่าวสามารถทดแทนเชื้อเพลิงจากฟอสซิลได้ และมีส่วนช่วยลดก๊าซเรือนกระจกที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อนและภัยพิบัติที่รุนแรงในปัจจุบัน รวมทั้งสนับสนุนให้เยาวชนสร้างเครือข่ายเพื่อช่วยกันรณรงค์ให้คนไทยใช้พลังงานทดแทนในรูปแบบต่างๆ

ดร.อนุสรณ์ กล่าวว่า การประกวดสุดยอดเยาวชนฯ ในปี 2553 แบ่งเป็น 2 ด้านคือการจัดทำโครงงานนวัตกรรมพลังงานทดแทนในหัวข้อ “Thailand Go Green” และการจัดกิจกรรมรณรงค์ในรูปแบบต่างๆ อาทิ ขบวนพาเหรด สื่อออนไลน์ผ่านเว็ปไซต์ หรือ Social Network ที่สื่อถึง “Thailand Go Green” โดยให้ทีมนักเรียนและอาจารย์ที่ปรึกษาช่วยกันประดิษฐ์และพัฒนานวัตกรรมพลังงานสะอาดเพื่อคนไทย

อนึ่ง การจัดการประกวดสุดยอดเยาวชนพลังงานทดแทนตลอดระยะเวลา 3 ปี ทำให้นักเรียนทั่วประเทศมีความรู้เรื่องพลังงานทดแทนไม่ต่ำกว่า 1.8 ล้านคน รวมปีนี้คาดว่าจะเพิ่มเป็น 2.5 ล้านคน จึงขอเชิญชวนนักเรียนระดับมัธยมศึกษาทั่วประเทศกว่า 2,500 โรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) จัดทีมของโรงเรียนโดยมีอาจารย์เป็นที่ปรึกษา ส่งใบสมัครมาที่บริษัท บางจากฯ เพื่อชิงทุนการศึกษากว่า 2 ล้านบาท และทีมที่ชนะเลิศจะได้ไปศึกษาดูงานด้านพลังงานทดแทนที่ต่างประเทศ ซึ่งเปิดรับสมัครและให้ส่งผลงานได้ตั้งแต่วันนี้ - 15 พฤศจิกายน 2553 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ส่วนกิจการสัมพันธ์ โทร. 0-2335-4840-1 หรือ www.bangchak.co.th

จากข่าวบริษัทได้ขอยืมต้นแบบเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจากน้ำฝนของข้าพเจ้าไปเป็นตัวอย่าง
นักข่าวช่อง NBT ขอสัมภาษณ์รายละเอียดเพื่อลงในข่าวภาคเที่ยง
ขณะทำการถ่ายทำ






หากท่านถูกใจไอเดียรบกวนไปโหวดที่ลิ้ง http://pm.go.th/ideasforthailand/ideas/340

วันศุกร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

เครื่องกำเนิดไฟฟ้าจากน้ำฝน


สิ่งประดิษฐ์นี้มีคำขออนุสิทธิบัตรเลขที่ 0803001503

จากภาพเป็นต้นแบบที่ 1 ที่ได้ทำการทดลอง

ฝนตกไฟดับเนื่องจากสาเหตุใดๆ เราไม่ต้องอยู่ในความมืดอีกต่อไปเนื่องจากได้มีความคิดในการนำฝนที่ตกลงมาใช้เป็นพลังงานไฟฟ้าโดยทางทีมงานกำลังเร่งวิจัยและพัฒนา


จากภาพเป็นต้นแบบรุ่นที่ 2


หลักการทำงานของเครื่องฯคือรวบรวมน้ำฝนจากหลังคาหรือน้ำไหลต่างๆเช่น น้ำทิ้งจากโรงงานหรือบริเวณที่มีน้ำไหลตลอดเวลาเช่น น้ำตก ไหลลงมาผลักกังหันเพื่อให้ผลิตไฟฟ้ากระแสตรง (DC) 12Vแล้วจึงแปลงไฟฟ้ากระแสตรงให้เป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) 220V ด้วยเครื่อง Inverter ในการแจกไฟฟ้าให้กับเครื่องไฟฟ้า เช่น หลอดไฟฟ้า พัดลม


    สูตรพลังงานไฟฟ้า: W = V x I [วัตต์= ความต่างศักดิ์ (volt) x กระแสไฟฟ้า (Amp.)]


ประสิทธิภาพของเครื่องฯ

-น้ำไหลลงจากรางน้ำ้ประมาณ 3400 Liter/Hour เฉลี่ยได้ไฟฟ้า 6 Watt จาก 12 Volt x 0.5 Amp



คลิปบันทึกในรายการ Energy Update เกี่ยวกับการทำงานของเครื่่องฯ ที่ได้นำไปแสดงในงานวันนักประดิษฐ์


าพถ่ายในงานวันวิทยาศาสตร์พลังงานทางเลือกนานาชาติ2009


ผู้คนสนใจเข้ามาสอบถามรายละเอียด


นายวุฒิพงศ์ ฉายแสง อดีต รมต.ว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้ให้ความสนใจแก่เครื่องฯ



ภาพเครื่องฯที่ได้แสดงในงาน
อุปกรณ์ในการเก็บพลังงานและอุปกรณ์แปลงไฟฟ้าbattery)กระแสตรงเป็นกระแสสลับ(inverter)


เครื่องฯได้รับรางวัลสิ่งประดิษฐ์ชุมชนฯ

ผลงานแห่งความภาคภูมิใจในการประดิษฐ์เครื่องมือเพื่อลดภาวะโลกร้อน